หากพูดถึงน่าน…..คุณจะคิดถึงอะไรคะ
เชื่อว่าหลายคน คงต้องคิดถึง ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติขุนสถาน บ่อเกลือ ดอกชมพูภูคา และอีกมากมาย
แต่วันนี้นุ้ยจะมาชวนทุกคนไปเที่ยวน่าน แบบเนิบๆ เดินช้าๆ สัมผัสวิถีชุมชน หาของอร่อยในตัวเมือง ไหว้พระเป็นศิริมงคล
และเป็นการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกด้วยคะ เพราะนุ้ยได้ท่องเที่ยวตามโครงการของ อพท. แอ่วม่วนใจ๋ไม่เอาถ่าน ชื่อโครงการเก๋มากๆ
พร้อมกันหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย
– กล้อง Canon 6D lens และ Canon 550D
– Lens Tamron SP 24-70mm F2.8 และ Canon EF-S 10-22MM F/3.5-4.5 USM
ปล 2. สามารถติดตามทุกการเดินทาง พูดคุย สอบถามเพิ่มเติมกันได้ที่นี้เลยคะ
https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels
ใช่เวลาเพียง ชั่วโมงนิด ก็เดินทางมาถึงน่านกันแล้วคะ ท่าอากาศยานน่านพึ่งสร้างใหม่ และพึ่งมีพิธีเปิดไปสดๆ ร้อนเลยคะ ใหม่เอี่ยมอ่องเลย
หลายคนอาจจะงงกับคำว่าไม่เอาถ่าน “ถ่าน” ในที่นี้หมายถึง ถ่าน คาบอนไดออกไซด์ นั่นเอง ซึ่งเป็นตัวที่เราให้โลกของเราร้อนขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ส่งเสริม ให้นักท่องเที่ยว ลดการใช้คาร์บอน ให้หันมาใช้จักรยาน รถสามล้อ เที่ยวแทนรถยนต์
โดยมีร้านอาหาร โรงแรมที่พักเข้าร่วมโครงการนี้ด้วยคะ สงสัยกันต่อมั๊ยคะ ว่าร้านอาหารกับโรงแรมจะเกี่ยวได้ยังไง ง่ายๆ เลยคะ ร้านอาหารจะเป็นร้านอาหารที่เลือกใช้วัตถุดิบในเมืองน่าน ลดการขนส่ง ได้ของสดใหม่ และยังเป็นการสร้างอาชีพให้กับคนในเมืองน่านด้วยกัน
ส่วนโรงแรมที่พัก จะเน้นไปในเรื่องการลดการซักล้าง ยกตัวอย่างเราเข้าพัก 2 คืน ก็จะไม่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนปลอกหมอก แต่จะเข้ามาทำความสะอาดให้เหมือนเดิม พร้อมให้เป็นส่วนลดคืนให้กับลูกค้าอีกด้วยคะ
แล้วเราจะเข้าร่วมโครงการนี้ได้อย่างไร ง่ายๆ เลยคะ โครงการนี้จะมี passport เล่มเล็กๆ มาให้เราหนึ่งเล่ม สามารถรับได้จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ข้างวัดภูมินทร์ หรือโรงแรมในตัวเมืองที่ร่วมโครงการ
เมื่อได้ passport มาแล้ว เพียงแค่เราไปชิม ชม ช้อป พัก ตามสถานที่ที่ร่วมโครงการ ก็จะได้ประทับตรารูปดอกไม้ลงบน passport แล้วละคะ สะสมให้ครบ 51 ดอก เราจะได้รับรางวัลเป็น “ฮีโร่ไม่เอาถ่าน”
เป็นการท่องเที่ยวแบบเนิบๆ ในตัวเมือแถมยังได้ช่วยลดโลกร้อน และสนับการท่องเที่ยวให้ยั่งยืนด้วยคะ
**นี่คือรูป passport คะ ด้านในสามารถกางออกมาเป็นแผนที่สำหรับท่องเที่ยวได้ด้วยคะ
นั่นคือร้าน โอวีโอสลัด
เป็นร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ริมถนนรังสีเกษม อาหารจะเน้นเพื่อสุขภาพ นุ้ยกล้าการันตีได้ว่าอร่อยมาก โดยเฉพาะน้ำสลัด รสชาติถูกปากคะ เรื่องผักไม่ต้องพูดถึง เพราะสด กรอบ อร่อย สงตรงจากน่าน ค๊า
ได้มาแล้วคะ สำหรับดอกไม้ดอกแรก สำหรับ passport ของนุ้ย
ตุงก้าคิง คือการสืบชะตาชีวิต หรือการสะเดาะเคราะห์แบบล้านนานั่นเองคะ เป็นการต่ออายุให้ยืนยาว เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งจะมี พ่อ มาคอยอธิบายขั้นตอนและความหมาย ให้เข้าใจ
ปล. พี่งได้รับแจ้งจากพี่ๆ ที่จังหวัดน่าน คุณลุงคำรบ บุคคลในภาพได้เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 เมษายน 2558 (ขอให้คุณลุงไปสูภพภูมิที่ดีนะคะ)
หากเราสนใจที่จะทำต้องแจ้งทางวัดไว้ล่วงหน้าเพื่อจัดเตรียมตุงไว้ให้คะ ถ้าไม่แจ้งไว้ จะต้องใช้เวลาในการตัดนานพอสมควร เรียบร้อยแล้วเราก็มาประกอบ ตา จมูก ปาก
แล้วนำไปถวายพระคะ
ส่วนชั้นบนจะรวบรวมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา สิ่งของที่อยู่กับวัดมาตั้งแต่เดิม
ร้านนี้การันตีเครื่องเงินด้วยฝีมือระดับ ศิลปินแห่งชาติ
เพราะคุณลุงบุญช่วย ได้รับรางวัล ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์)ประจำปี 2557
ในวันที่นุ้ยไป ได้เจอลุงบุญช่วย กำลังนั่งตอกลายขันเงินอยู่หน้า ร้านพอดีเลยคะ
นี่คือขั้นตอนการขึ้นรูปคะ
“โฮง” เป็นคำทีคนน่านใช้เรียกบ้านหลังใหญ่ หมายถึงคุ้ม หรือที่อยู่อาศัยของเจ้านายล้านนาในอดีต
เราไปดูบรรยากาศด้านในกันเลยดีกว่า นุ้ยขึ้นบันไดมาบนเรือน
ภายในโฮงเจ้าฟองคำ ทำให้นุ้ยแอบขนลุกได้ตลอดเวลา เหมือนบ้านหลังนี้ยังมีชีวิต ทุกอย่างยังคงมีเรืองราวแฝงอยู่
ซึ่งด้านล่างจะมีการสาธิต การท่อผ้า การต่อไหม นุ้ยได้ลองทำด้วย ไม่ง่ายเลยคะ
ครึ่งวันแรกสำหรับเมืองน่าน ได้เห็นได้รู้อะไรมากมายเลยคะ บางครั้งการเดินไปเรื่อยๆ แบบไม่รีบร้อน การมองย้อนไปยังอดีต ทำให้เราฉุกคิดอะไรได้มากมายเลยทีเดียว
เย็นวันนี้เราทานอาหารกันที่ร้าน เฮือนกำกิ๋น ตั้งอยู่หน้าศาลเจ้า ถนนสุมนเทวราช เป็นร้านอาหารพื้นเมือง
เมนูแรกเลยคะ ห้ามพลาด ออเดิร์ฟเมืองคะ มีไส้อั้ว แหนม แคปหมู ผักสดผักลวก น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง และแกงฮังเล แซ่บค่าเจ้า
และเมนูห้ามพลาด ไก่ทอดมะแขว่น นี่ถือเป็นหนึ่ง ใน 9 สิ่งที่ควรทานเมื่อไปน่านเลยคะ
ส่วนรสชาติแล้วแต่คนชอบน๊า สำหรับนุ้ยรสชาติแปลกๆ ไม่ค่อยถนัด แต่คนอื่น ๆที่ไปด้วยกัน ชอบนะคะ
สิ่งแรกที่ได้เห็นเลยคือ มีจักรายานเตรียมไว้สำหรับคนที่เข้าพักเพียบเลยคะ
ผ่านล็อบบี้มา โรงแรมเล็กๆ แห่งนี้มีสระว่ายน้ำที่ขนาดกำลังพอเหมาะเลยคะ
ไม่มีลิฟต์นะคะ ใช้บันได มีเพียงแค่ 3 ชั้น
ภายในห้องโล่ง ๆ เรียบๆ แต่อุปกรณ์ของใช้ครบครันคะ หายห่วง และด้านนอกยังมีราวตากผ้าให้ด้วย
เช้ามาก่อนออกจากห้อง อย่าลืมแขวนป้าย Low carbon หน้าห้องนะคะ
วันนี้เป็นข้าวคลุกกะปิ อร่อยมากคะ คอนเฟิร์ม
เริ่มกันที่วัดกู่คำ เป็นที่ประดิษฐานของพระเกศาธาตุ เริ่มเช้าเอาฤกษ์เอาชัยกันด้วยพิธีสืบชะตา
มีของเก่ามากมาย
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักวัดนี้แน่นอน เพราะภาพวาดดภายในพระอุโบสถของวัดนี้ เป็นที่มาของ คำว่า น่าน กระซิบรัก
อย่างภาพนี้เป็นการต่อบุหรี่ หากหญิงใดยอมต่อบุหรี่ให้ ถือเป็นการยอมรับไมตรี
“คำฮักน้องกูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาขะลุ้ม จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป ก็เลยเอาไว้ในอกในใจ๋ตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา…”
“ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น”
คำกระซิบรักของปู่ม่านย่าม่าน โดย….อาจารย์ สมเจตน์ วิมลเกษม ปราชญ์เมืองน่าน
ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเสาหลักเมืองน่าน
ดูผ่านๆ ทำให้อดนึกถึงวัดร่องขุ่น ที่จังหวัดเชียงรายไม่ได้ เพียงแค่ที่นี้ไม่ตกแต่งด้วยกระจก
ก่อนกลับ อย่าลืมสักการะศาลหลักเมือง
จากพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า พระยาการเมือง เจ้านครน่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากกรุงสุโขทัย มาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง และตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่ง แม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ที่บ้านห้วยไค้ และเสวยผลสมอแห้ง ซึ่งพระยามลราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระพุทธเจ้าจึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุแช่แห้ง
ถัดมาเป็นวิหาร ซึ่งด้านในมีพระประธานองค์ใหญ่มากๆ
ช่วงเช้าเป็นสิริมงคลกับชีวิต เวลาเพียงไม่แค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่เราสามารถไปกราบสักการะพระตามวัดวาอารามได้ถึง 5 วัดด้วยกัน เนิบ ๆ ช้าๆ เวลาเดินช้าลง หรือเรามีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น
ร้านนี้ไม่ได้เน้นอาหารพื้นเมืองคะ แต่รสชาติอาหารถือว่าถูกปากเลยทีเดียว
โดยเฉพาะจานนี้ ดูธรรมดา แต่บอกได้เลยว่าเด็ดมาก
เดิมตึกนี้เป็นโรงเรียนหญิง หรือโรงเรียน เมริเอริสมิทบราวส์
มีภาพมากมายที่ไม่เคยได้เห็นจากที่แห่งใด แต่นุ้ยเห็นได้จากที่แห่งนี้
บอกได้คำเดียวว่า ที่นี้คือสถานที่ ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาน่านคะ
ด้วยบรรยากาศที่รมรื่น ทำให้ที่นี้ เป็นที่หลบแดดร้อนๆ ได้เป็นอย่างดี
มีมุมเล็กๆ ให้เลือกนั่ง เลือกนอน เลือกชิลกันได้ตามใจชอบ
ทุกมุมได้ตกแต่งไว้แบบน่ารักมากๆ โน่นนิด นี่หน่อย แต่ดูแล้วไม่ขัดเขิน ลงตัวไปหมด
แต่ไปๆ มาๆ นุ้ยนั่งอยู่ที่นี้เกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียว
เนื่องจากสามารถมองเห็นวิว รอบๆ เมืองนานเลยทีเดียว และ
ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร
การเดินทางไปวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถทำได้สองวิธีคะ เราสามารถขับรถขึ้นไปถึงวัดได้เลย และอีกวิธีคือเดินขึ้นบรรไดไป
นั่นคือรำวงมะเก่า และการเต้นบาสลบกันคะ
ก่อนจะมาถึงการรำวงมะเก่า สนุกสนานมากคะ
และปิดท้ายด้วย เต้นบาสลบ ขอบอกว่าสลบจริงๆ คะ เพราะเหนื่อยมาก และขอบอกว่ามีแต่นุ้ยที่เหนื่อยคะ แต่แม่ๆ สู้ตาย ทุกคนเต้นได้สุดชีวิตจริงๆ
นุ้ยไปปิดท้ายวันนี้ด้วยขนมหวาน ป้านิ่มคะ
นี่เลยคะป้านิ่มเจ้าของร้าน
มีขนมหวานให้เลือกหลายเลยคะ
สำหรับนุ้ยที่ว่าแปลกคือ เอาไอศกรีมมาใส่ในขนมหวานนี่แหละ
และที่โดนที่สุดคงเป็นถ้วนนี้คะ ไอศกรีมบัวลอยไข่หวาน ของร้อนของเย็น ของความของหวานอยู่ในถ้วยเดียวกัน แต่อร่อยมากๆ ส่วนราคาถ้วยนี้ถ้าจำไม่ผิด 60 บาท (ถ้าผิดต้องขออภัยด้วย กินหลายอย่าง จำราคาแต่อย่างไม่แม่น) ปิดท้ายด้วยขนมแบบนี้ฝันดีตลอดคืนแน่ๆ
คล้ายๆ รายการซอกแซกตามซอยเลยคะ เพราะพวกเราปั่นไปเรื่อยๆ หลงบ้าง ถูกบ้าง ผ่านไปทางแม่น้ำ ยามเช้าอากาศดีสุดๆ
ไปดูในตลาดกันคะ มีอะไรบ้าง มีของแปลกหลายอย่างเลยทีเดียว รังผึ้งถูกจัง 20 บาท
ไข่มดแดง ดอกเสี้ยว มะแขว่น หน่อไม้
ที่รับรู้ได้คือ คนน่าน ยิ้มเก่ง ยิ้มหวาน ตรึงใจมาก ๆ
ก่อนกลับเข้าที่พักแวะไปถ่ายรูป ที่ซุ้มลีลาวดีหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน ตรงกันข้ามเป็นวัดช้างค้ำ ที่แวะไปเมื่อวาน
เก็บข้าวของเสร็จระหว่างรอเวลา ใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มที่สุด นุ้ยตรงดิ่งไปยัง กาดน่าน
เป็นร้านเล็กๆ ที่น่ารักมากเลยคะ ตกแต่งได้น่ารัก
มะม่วงชีสเค้กก็อร่อย
ร้านน่ารัก ขนมอร่อย อีกหนึ่งร้านแนะนำคะ
น่านยังมีอะไรอีกมากมายให้ค้นหา ทุกเรื่องราวยังคงดำเนินไป เมืองเก่า ที่ไม่ได้เก่าตามกาลเวลา ยังมีเสน่ห์อีกมากมายให้ตราตรึง
และอย่างลืมการท่องเที่ยวแบบ low carbon นะคะ ไม่ใช่เพียงแค่น่าน แต่อยากให้เป็นในทุกๆ ที ไม่ใช่เพียงแค่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ไม่ได้เพียงเพื่อใครที่ไหน แต่เพื่อตัวเราเองคะ เพื่อโลกของเรา
สุดท้าย …..ขอขอบคุณทุก ๆ การเดินทาง ที่สอนให้นุ้ยได้เรียนรู้ และรู้สึกรักทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น…..
ขอบคุณ สำหรับทุกกำลังใจ
ขอบคุณ สำหรับทุกความเห็น
ขอบคุณ สำหรับทุกไลค์
ขอบคุณ สำหรับทุกแชร์
ขอบคุณ สำหรับโหวต
ขอบคุณ สำหรับทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา
และขอบคุณ สำหรับพื้นที่การแบ่งปันแห่งนี้
…
…
…
น่าน…เมืองเก่าที่ยังมีชีวิต
จานนี้ซุปฟักทอง เข้มข้นสุดๆ
ปิดท้ายด้วยเมนูขนม วัฟเฟิล ไอศรีม วัฟเฟิลทำเองอบสดอร่อยมากคะ