รู้นะว่าหลายคนรอรีวิวทริปเกาหลีอยู่
คราวนี้ถึงคิวของเมืองปูซาน เมืองที่เราชอบมากที่สุด ในทริปเลย
ต้องบอกก่อนว่า ปูซาน 3 วัน 2 คืน ไม่พอนะ แม้นุ้ยกับต้นไปที่นี่ครั้งที่สอง ไปซ้ำให้หายคิดถึง
แต่ปูซานครั้งนี้มีอะไรใหม่ๆ เยอะมาก มีพิกัดปังๆ ทั้งที่เที่ยว ที่พัก คาเฟ่ หาดสุดคิ้วท์ และอีกมากมาย
เพราะฉะนั้นต้องแพลนวันกันดีๆ น๊า
.
วิธีการเดินทางไปปูซาน
แนะนำเป็นการนั่ง KTX นะคะเร็วสุดสะดวกสุด และสบายที่สุดแล้ว
สามารถซื้อตั๋ว KTX ได้ล่วงหน้าค่ะ จะทำให้ง่ายมากขึ้น และราคาถูกกว่าการไปจองต่อเที่ยวหน้าเคาน์เตอร์ค่ะ
เข้าไปดูราคา และเลือกแบบที่ต้องการให้ได้จาก Klook นะคะ
https://bit.ly/3S0H4yZ
#แฟนพาเที่ยวเกาหลี #TravelokaTH #TravelToKoreaBeginsAgian
สถานที่ในทริปนี้
#สถานที่ท่องเที่ยว
Sky Capsule Haeundae Blue Line Park
haeundae beach train
Gamcheon Culture Village
Gwangalli Beach
The Bay 101
#กินอะไรดีค่าเฟ่ที่ไหนปัง
Montée 104
Jagalchi Fish Market
Alice café
#ที่พักของทริป
SoTA Collection The Terrace
เรามาเริ่มกันที่ Sky Capsule Haeundae Blue Line Park
เป็นพิกัดที่ดึงดูดให้นุ้ยกลับไปปูซานอีกครั้ง เพราะความน่ารักตะมุตะมิของเจ้า Sky Capsule ที่มาพร้อมกับสีสันน่ารักสดใสด บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดนะคะ สำหรับการนั่ง Sky Capsule จะมีเพียงแค่ 2 สถานีเท่านั้นคือ Mipo Station และ Cheongsapo Station
คือเริ่มจาก Mipo Sation แล้วนั่งไปยัง Cheongsapo Station ขากลับอาจจะเดินกลับหรือนั่ง Beach train หรือจะสลับก็ได้น๊า ขาไปจาก Mipo Station ให้เดิน หรือนั่ง Beach Train แล้วขากลับค่อยนั่ง Sky Capsule ได้ทั้งสองแบบเลย
เปิดให้บริการ 9.30 -20.30 น.
Sky Capsule เที่ยวเดียว 2 คน 30,000 วอน / ไปกลับ 55,000 วอน
Beach Train เที่ยวเดียวคนละ 7,000 วน / ไปกลับ 10,000 วอน
ดูสีของน้องสิ น่ารักสดใส คันเล็กตะมุตะมิ
ระหว่างทางวิวสวยมาก วิ่งลัดเลาะริมทะเล ใช้เวลาจากต้นทาง จนถึงปลายทางประมาณ 20 นาที
สามารถนั่งได้ ถึง 4 คน แต่นุ้ยว่า 2 คนกำลังดี จะได้ถ่ายรูปสวยกว่า
เมื่อมาถึง Cheongsapo Station ต้องไม่พลาดกับมุมนี้ แอบเสียดายวันนี้ฟ้าหม่น ฟ้าไม่เป็นใจ
บริเวณ Cheongsapo Station มีคาเฟ่โดนัทน่ารักมากอยู่ริมทะเลชื่อ ว่า Alice Donut ร้านน่ารักโทนสีสดใส วิวสวย และขนมคืออร่อยมาก อยากให้ไปลองกัน อิ่มอร่อย และได้รูปสวยแน่นอน
ใกล้ๆ กันเดินไปนิดเดียว หรือจะนั่งบีชเทรนไปก็ได้นะ จะมี Cheongsapo Daritdol Observatory เป็นทางเดินลอยฟ้า หรือสกายวอล์คนั่นแหละทุกคน เป็นทางเดินยื่นออกไปในทะเล จะมีทั้งพื้นของทางเดินปกติ และกระจกใส แค่ก้มมองผ่านกระจก ก็ใจหวิวแล้ว สูงมากๆ เลย
จุดนี้เข้าได้ไม่มีค่าใช้จ่ายน๊า
ขากลับเราเลือกนั่ง Beach Train กลับ ไปยังสถานี Mipo Station
ติดกับสถานีเลย จะมีค่าเฟ่วิวปัง ชื่อว่า Montée 104 และวิวที่ว่าก็คือ Sky Capsule นี่แหละ ได้ถ่ายรูปคือกับน้องแบบใกล้ๆ นั่งจิบกาแฟไปเรื่อยๆ ดูวิวบ้าง ถ่ายรูปบ้าง คือมันดีต่อใจมากๆ คาเฟ่จะมีให้บริการทั้งขนม และเครื่องดื่ม จะมีโซนที่นั่งทั้งแบบ Indoor แอร์เย็นฉ่ำ กับ Outdoor เป็นมุม Rooftop ถ่ายรูปสวยๆ
ต่อมาขอนำเสนอสถานที่ ที่ใครๆ ก็รู้จัก นั่นคือ Gamcheon Culture Village
เพราะถ้านึกถึงปูซาน ภาพแรกที่เรานึกถึงก็ที่แหละ หมู่บ้านสีลูกกวาด บางคนก็เรียกว่าหมู่บ้านพาสเทล
ก็ดูสีสันของบ้านเรือนแต่ละหลังสิ สีสันน่ารักมากๆ ถ้าจะพูดถึงประวัติ เอาแบบคร่าวๆ เนอะ เป็นหมู่บ้านที่เกิดจากการตั้งรกราก ย้ายถิ่นฐานของชาวเกาหลี ซึ่งหนีภัยจากสงครามเกาหลี และอาศัยอยู่จนถึงปัจจุบัน และในปี ค.ศ. 2015 ศิลปินท้องถิ่นและชาวบ้านในหมู่บ้าน ได้รวมตัวกันในการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมฝาผนัง ต่างๆ จนเป็นแบบที่เราเห็นกันทุกวันนี้
เรื่องมุมถ่ายรูปไม่ต้องพูดถึง เพราะเยอะมาก นุ้ยใช้เวลาอยู่ที่นี่ครึ่งวันเลยทีเดียว เดินเล่นไปเรื่อยๆ นอกจากมุมถ่ายรูปแล้ว ยังมีเรื่องราวให้เราได้ศึกษา อีกทั้งมีคาเฟ่ ร้านของของที่ระลึกมากมายเลยล่ะ
มุมไฮไลท์ คงเป็นมุมนี้ มุมของเจ้าชายน้อย
ปกติถ้าพูดถึงปูซาน เราจะรู้กันว่าเป็นเมืองติดทะเล และหาดที่ใครๆ ก็คุ้นหูคุ้นชื่อกันดีอยู่คือ Haeundae แต่ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปที่หาด Gwangalli Beah นี่เป็นครั้งแรกของเราสองคน และดันตกหลุมรักเข้าอย่างจัง ถึงขั้นกับพูดว่าทำไมเราพึ่งรู้จักที่นี่
และทริปนี้เราไม่ได้แพลนเวลาสำหรับหาดนี้มากนัก แม้ว่าจะนอนที่หาดนี้ก็ตาม แต่ดันเลือกใช้เวลากับสถานที่อื่นๆ เยอะกว่า เราจึงตกลงกันว่า ปูซานรอบหน้า จะนอนที่หาดนี้อีก และจะมีเวลาให้หาดนี้แบบเต็มๆ วัน
นี่คือที่พักของเรา SoTA Collection The Terrace เราตั้งใจเลือกที่พักติดทะเล วิวสวยเห็นสะพานแบบเต็มๆ และต้องบอกว่า ที่พักสวยๆ ที่หาดนี้เยอะมาก แต่นั่นแหละ เวลาจะถ่ายรูปที่พักยังแทบจะไม่มีเลยทุกคน
มีรูปที่พักมาฝากกันแค่นี้
จองที่พัก https://bit.ly/3yBBOep
การเดินทางไปที่พัก
แผนที่ https://goo.gl/maps/JoCjyvZp84RMPCT69
เมื่อเดินไปตามแผนที่ จะเจอซอยเล็กๆ ให้เดินเข้าซอย ทางเข้าตึกจะอยู่ทางด้านซ้ายตรงข้าวเซเว่น
บรรยากาศยามเช้าเมื่อเราตื่น และพาตัวเองออกไปยื่นตรงระเบียง มันคือภาพนี้
และนี่คือภาพช่วงค่ำ มันสวยมันโรแมนติกมาก ตอนค่ำจะมีเปิดไฟที่สะพาน และมีพลุเล็กๆ ในทะเลด้วย
เราพยายามกลับมาให้เร็วที่สุดในเท่าที่เราจะทำได้ และเป็นคืนที่เรายอมนอนดึก เพื่อไปนั่งเล่นริมทะเล
เป็นหาดที่คึกคักมาก มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านสำหรับนั่งดริ้งค์ คาเฟ่ของหาดนี้ปิดกันตอนตีสองนะเออ แต่ฟิลล์การเข้าคาเฟ่ของเรามันอินกับกลางวันมากกว่า ก็เลยนั่งเล่นดูไฟกันริมทะเลยาวไปจนถึงเที่ยงคืน
มาถึงเมืองทะเลอย่างปูซานทั้งทีจะไม่กินอาหารทะเลได้ไง เราแนะนำให้พุ่งตัวไปที่ตลาดปลา Jagalchi Fish Market เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ มีทั้งแบบร้านให้เราเข้าไปนั่งสั่งอาหารตามเมนูได้เลย หรือจะไปเลือกของสด ในตลาด แล้วให้ทางร้านทำให้ตามเมนูที่เราอยากทาน แต่ละร้านจะขายของสดคล้ายๆ กัน และราคาจะเป็นราคากลาง เพราะฉะนั้นชอบร้านไหนก็ซื้อได้เลย
ทุกสิ่งอย่างคือสด แบบยังคงดิ้นอยู่ ไม่มีตัวไหนตายเลย บางอย่างคือถูกมาก หอยเป่าหื้อตัวละร้อยกว่าบาท ซึ่งบ้านเราไม่มีแน่นอนราคานี้
บอกเลยว่ามื้อนี้ไม่เบา
ราคาไม่เบา แต่คุ้มค่า
เมื่อเราเลือกซื้อของสดกันเรียบร้อยแล้ว ก็มานั่งกันที่ชั้น 2 ก็นั่งได้กินอาหารทะเลกับวิวทะเลแบบนี้
ปิดท้ายกันด้วยที่ The Bay 101 เป็น พิกัดถ่ายรูปสวยยามค่ำคืน และยังมีร้านอาหารให้นั่งดื่ม นั่งชิลล์กันอีกด้วย หรือจะล่องเรือชมวิว ก็สามารถลงเรือได้ที่นี่น๊า ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวเท่านั้น คนเกาหลี ก็มากันเยอะเลย
ปูซานของเรา รอบนี้ คือดีต่อใจมากจริงๆ ตกหลุมรักได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
สัญญากว่าจะกลับมาหาอีกแน่นอน