วันเสาร์, 12 ตุลาคม 2567

Kaohsiung เที่ยวเกาสง ประเทศไต้หวัน

เกาสง เกาใจ … รักครั้งใหม่ที่เราพึ่งเจอ

และรีวิวนี้คือ เกาสงครั้งแรกในชีวิต

เอาจริงเธอ … เป็นอีกหนึ่งเมือง เมื่อไปเที่ยวไต้หวันแล้วไม่ควรพลาดเลย

จะบินตรงไปก็ได้ หรือนั่งรถต่อจากไทเป ไถจง แปบๆ ก็ถึงแล้ว

.

ซึ่งเมืองเกาสงจะเป็นเมืองท่าที่อยู่ทางตอนใต้ของไต้หวัน และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศเลยนะ ก่อนไปนุ้ยแทบไม่มีภาพจำของเกาสงอยู่ในหัวเลย นอนย่านไหน กินอะไร เที่ยวที่ไหนดี ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่หมด  และเชื่อว่าหลายคนเป็นเหมือนเรา แต่หลังจากอ่านรีวิวจบ รับรองว่าทุกคนจะพร้อมหยิบกระเป๋าจองตั๋ว และไปเที่ยวเกาสงกัน เพราะรีวิวนี้นุ้ยมีพิกัดเด็ดๆ ทั้งแลนด์มาร์ค คาเฟ่ ย่านสุดชิค สุดชิลล์ มาฝากกัน ถึง 15 พิกัดเลย

.

#การเดินทาง

**การเดินทางภายในเมืองเกาสง

ง่ายและสะดวกมากๆ มีทั้งรถบัส  รถไฟฟ้า ซึ่งรถไฟฟ้ามีทั้งหมด 3 สาย แบ่งออกเป็น KMRT (Kaohsiung MRT): Red Line , Orange Line และ LRT (Light Rail Train) Line

**การเดินทางจากไทย ไปเกาสง

1. สามารถบินตรงจากไทย ไปเกาสงได้เลย

2. หรือจะบินลงไทเป ไถจง  แล้วนั่งรถต่อไปเกาสง ก็ทำได้ค่ะ  มีทั้งรถบัส รถไฟธรรมดา  (TRA) รถไฟความเร็วสูง (THSR) ซึ่งราคาและเวลาในการเดินทาง ก็จะต่างกันออกไป 

จองตั๋วเครื่องบินไปไต้หวันและโรงแรมในไต้หวันราคาดี

ได้ที่  https://trv.lk/eusqrdQe

ใส่โค้ด FLYTAIWAN รับส่วนลดเที่ยวบินไปไต้หวัน 8% สูงสุด 800 บาท ขั้นต่ำ 5,000 บาท

ใส่โค้ด TAIWANHO รับส่วนลดโรงแรมในไต้หวัน 10% สูงสุด 1,000 บาท ขั้นต่ำ 5,000 บาท

*คูปองใช้ได้ถึง 31 ต.ค. 66
*เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไข

#แฟนพาเที่ยว #Taiwan #kaohsiung #เกาสง #TravelokaTH #FlyWithTraveloka #จองที่พักต้องTraveloka

สำหรับรีวิวนี้นุ้ยจะมาพาทุกคนไปเที่ยวเกาสง ในแบบฉบับมือใหม่ แต่รับรองว่าได้มาครบทั้งทั้งกิน เที่ยว แชะ ชิลล์ ซึ่งจะพาไปทั้งหมด 15 พิกัด

邦咖啡 Bang Coffee

大港橋 Great Harbor Bridge  

書店喫茶 一二三亭

Kaohsiung Music Center

Pier 2 Arts Center

อุโมงค์ Totoro

The Dragon and Tiger Pagodas

Spring and Autumn Pavilions

วัดจั่วอิ๋งหยวนตี้ (Zuoying Yuandi)

PAMMA Coffee 泮咖啡

Sanfeng Temple

Dome of light

Dadong Arts Center

Weiwuying Street Art Village

Liuhe Night Market

ไฮไลท์ของทริป

ไฮไลท์ของทริป

1. 邦咖啡 Bang Coffee

ขอเริ่มกันที่พิกัดชิค ๆ ตามประสาคนชิค และชอบชิลล์เป็นหลัก เจอร้านน่ารักเราต้องรีบพุ่งตัวไป  นี่คือคาเฟ่ที่เราชอบมาก ๆ โทนสีเหลืองครีมละมุนตู้มสุด ๆ การตกแต่งมินิมอล ตอนเห็นรูปครั้งแรก ก็ปักหมุดไว้ในใจทันที และเมื่อไปถึงจริง ๆ ร้านน่ารักทุกมุม เครื่องดื่มดี ขนมอร่อย เจ้าของร้านสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และแนะนำเมนูต่าง ๆ ได้ดีเลย  สายคาเฟ่โปรดรู้ไว้เกาสงมีคาเฟ่น่ารักนะเออ

.

เปิดให้บริการทุกวัน 10.30 -22.00 น.

การเดินทาง รถไฟ TRA สถานี Neiwei เดินต่อประมาณ 10 นาที

2. 大港橋Great Harbor Bridge  

 เป็นสะพานหมุนแห่งแรกในไต้หวัน โทนสีขาวมินิมอลมาเลยจ้า นุ้ยยกให้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดเลย ซึ่งตัวสะพานจะสามารถหมุนได้ 180 องศา เพื่อให้เรือวิ่งผ่านไปมา ใครอยากไปเห็นตอนสะพานหมุน ไปดูได้ตามเวลาตามนี้เลย

จันทร์-พฤหัส เวลา 15.00 น.

ศุกร์-อาทิตย์ เวลา 15.00 และ 19.00 น.

.

การเดินทางไป Great Harbor Bridge

โดยสารด้วยการนั่ง KLRT ลงที่สถานี Dayi Pier – 2

3. 書店喫茶 一二三亭

ยังคงเอาใจสายคาเฟ่อย่างต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่มีความคลาสสิค และมีเสน่ห์มาก จะเรียกว่าลึกลับก็ได้นะ  ทางเข้าด้านหน้าดูไม่รู้เลยว่านี่คือคาเฟ่ และเมื่อเดินเข้าไปด้านในยิ่งงงไปกันใหญ่ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก นี่เรามาถูกที่ใช่ไหม เดินขึ้นบันไดไปแบบงงๆ เหมือนเรากำลังเดินหลงเข้าไปในบ้านใครสักคน และเมื่อเปิดประตูบานหนึ่งเข้าไปด้านใน ว้าววว ชอบจัง เป็นสไตล์ไม้ๆ คลาสสิคๆ หน่อย ฟิลเจแปนนิดๆ มีทั้งเมนูอาหารคาว และอาหารหวาน อีกทั้งเครื่องดื่มที่หลากหลาย เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่ต้องปักหมุดไว้เลยค่ะ

.

เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-18.00 น.

การเดินทาง นั่ง KMRT ลงสถานี Sizihwan Station ทางออก 2

4. Weiwuying Street Art Village

ขอพาไปตะลุยถ่ายรูปสตรีทอาร์ทที่มีทั้งความเท่  ความน่ารัก ความชิค  เอาจริงว่าเราสองคนอึ้งมากเพราะในย่านนั้น ตึกทุกตึกเต็มไปด้วยภาพวาด ที่อื่นเขาวาดกำแพงกันนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ที่นี่ วาดทั้งตึก และทุกตึก จะสูง จะเตี้ยก็วาดหมด และแต่ละตึกจะมีลวดลายที่ต่างกันออกไป บางตึกก็น่ารักสดใส บ้างก็ลายการ์ตูน บ้างก็ลายสัตว์น้อยใหญ่ และลายกราฟฟิคต่าง ๆ  ใครอยากได้รูปตามประสาคนชิล ตั้งพิกัดไปเลยจ้า

.

การเดินทาง : ลงสถานี KMRT Weiwuying Exit 4  

5. ตลาดกลางคืนหลุ่ยเฟิง (Ruifeng Night Market)

เป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในเกาสงเลยค่ะ ถ้าคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี ให้ขึ้น KMRT แล้วพุ่งตัวตรงไปที่นี่เลย เพราะมีอาหารการกินที่เยอะแยะมากมาย ละลานตาไปหมด ทั้งเมนูคาว หวาน นับพันร้าน มีทั้งแบบเดินกิน โต๊ะนั่ง เลือกได้ตามใจชอบ เราสองคนได้ลองชิมหลายเมนูมาก คืออิ่มแปล้พุงปลิ้นเลยทีเดียว  มีร้านทาโกยากิไส้ซีฟู้ดชีสเยิ้มที่อยากให้ลอง อร่อยมาก และ Angel Fried Chicken  ไก่ทอดที่ต้นบอกว่าอร่อยที่สุดในไต้หวันที่เคยกินเลยนะ  ทั้งที่ก่อนหน้านี้เราเคยมีที่ 1 ในใจอยู่ก่อนแล้ว แต่ต้นฟันธงว่าร้านนี้ที่เกาสง อร่อยกว่าร้านที่เคยกินที่ไทเป เกิดการแย่งมงกันเกิดขึ้นโดยมิได้นัดหมาย

.

เปิดทุกวันเวลา 17.00 – 24.00 น.

การเดินทาง นั่ง KMRT ลงสถานี Kaohsiung Arena ทางออก 1

6. ศูนย์ดนตรีเกาสง (Kaohsiung Music Center)  

เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดเลย โดยเฉพาะคนที่ชอบถ่ายรูปอาคารสวย ๆ ซึ่งอาคารนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 10 ปีเลยนะตั้งอยู่ริมแม่น้ำแห่งความรัก ที่อาคารแห่งนี้ มีโถงแสดงดนตรีกลางแจ้ง และยังมีหอประชุมขนาดใหญ่อีกด้วย แต่สำหรับเราสองคน เลือกที่เดินข้ามแม่น้ำมาฝั่งตรงข้าม เพื่อถ่ายรูปกับตึก มานั่งเล่นตอนเย็นๆ ชิลล์ไม่น้อยเลยนะ อากาศดีสุด ๆ

..


เปิดให้บริการ เวลา  10.00–22.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
การเดินทาง : นั่ง KLRT มาลงที่สถานที่  Love Pier ลงปุ๊บถึงปั๊บ  

7. Dome of Light Formosa Boulevard

จะไม่พูดถึงเลยคงไม่ได้ เพราะนี่ถือเป็นแลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาด ถ้าเราหาข้อมูลการเที่ยวเกาสงจะเห็นรูปที่นี่ขึ้นมาเป็นที่แรกในทุกเว็บไซต์ แต่ก็นั่นแหละค่ะทุกคนที่นี่สวยควรค่ากับการมาเยือนจริง ๆ ถ้าให้เราจัดอันดับที่เราเคยเห็นในไต้หวัน ที่นี่คือสวยสุดเลยนะ เป็นงานประติมากรรมกระจกสีกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีกระจกสีมากกว่า 4,500 บาน ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวอิตาลี เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยแนวคิดของดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นสี แดง เหลือง น้ำเงิน เขียว

.

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 05.00–24.00 น.
การเดินทาง  นั่ง KMRT ลงสถานี Formosa Boulevard  (อยู่ในสถานีเลยค่ะ)

8. Totoro Tunnel  อุโมงค์ Totoro 

เป็นอุโมงค์ต้นไม้ที่โค้งเข้าหากัน และพื้นด้านล่างจะเป็นเส้นทางของรถไฟรางเบา KLRT จริง ๆ แล้วที่นี่ก็ไม่ใช่พิกัดสถานที่ท่องเที่ยวซะทีเดียว แต่เราเห็นรูปแล้วชอบ รู้สึกว่าน่ารักจัง  ก็เลยได้ชวนเพื่อนไปถ่ายรูป เป็นอีกที่ที่มีคนไปถ่ายรูปเพื่อเช็คอินกันเพียบ 

.

การเดินทาง : นั่งรถ  KLRT ลงสถานี Kaohsiung Museum of Fine Arts 

9.  Dadong Arts Center

อาคารต่างๆ ถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจ อีกหนึ่งสถานที่ ที่ทำให้รู้สึกว่าเมืองนี้แต่มีความอาร์ท ความเท่เต็มไปหมด อาคารต่าง ๆ ถูกออกแบบมาด้วยความตั้งใจ ดีไซน์สวยสะดุดตา ที่นี่มีทั้งอาคารจัดแสดงต่างๆ ห้องสมุดสำหรับเด็ก และคาเฟ่ เป็นพื้นที่สาธารณะ ที่คนในเกาสงแวะเวียนกันมาใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ  มาถึงแล้วจะไม่กดรูปสักแชะ สองแชะ ก็ยังไง ๆ อยู่  ถ้างั้นเริ่มเลย 1 2 3 … เผลอแปบเดียวได้เกือบ 20 รูป 

 .
เปิดให้บริการเวลา อังคาร-พฤหัส 10:00–21:00 น. อาทิตย์ 10.00-17.00 (ปิดทุกวันจันทร์)
การเดินทาง : นั่ง KMRT  ลงสถานี Dadong Station ทางออก  2

10. Pier 2 Arts Center (駁二藝術特區)

ในอดีตที่นี่คือโกดังริมน้ำ แต่ปัจจุบันได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดชิค แหล่งรวมคนฮิป และงานอาร์ทมากมาย  และยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ  และติด ๆ กันจะเป็น สวนสาธารณะ Hamasen Railway Cultural Park  ที่ผู้คนในเกาสง ต่างพากันออกมาใช้ชีวิต บ้างมาทำกิจกรรมของโรงเรียน บ้างก็มาถ่ายรูป บ้างก็พาลูกมาวิ่งเล่น 

 .

พื้นที่ของส่วนจัดแสดง เปิดให้บริการเวลา :  จันทร์-พฤหัส 10.00–18.00 น. / ศุกร์-อาทิตย์ 10.00–20.00 น.
การเดินทาง : นั่ง  KMRT  ลงสถานี Yangchengpu Station Exit 1 หรือ LMRT ลงสถานี Penglai Pier-2

11. The Dragon and Tiger Pagodas (龍虎塔) เจดีย์คู่มังกร-เสือ

พิกัดนี้เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองเกาสง ไม่มาที่นี่เหมือนมาไม่ถึงเกาสงนะขอบอก ตั้งอยู่ที่ Lotus Pondเป็นเจดีย์คู่มังกร-เสือ สูง 7 ชั้น อยู่กลางสระบัวด้านหน้าวัดฉือจี้ (Ciji Temple)  สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเซิงต้าตี้ที่เป็นเทพแห่งการรักษา  ซึ่งการเดินเข้าไปด้านใน ทุกคนต้องจำให้ดีว่าต้องเดินเข้าทางปากมังกรเท่านั้น และออกทางปากเสือนะ เพราะมีความเชื่อว่า ถ้าหากเราเดินเข้าทางปากมังกร ก็เพื่อรับเอาสิ่งที่ดีดีเข้ามา  และออกทางปากเสือจะช่วย ปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัว

.

เปิดทุกวันเวลา  08.00–18.00 น.
นั่งรถไฟธรรมดา TRA มาลงที่สถานี Zuoying และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

12.   Spring and Autumn Pavilions  ศาลาฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง

เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่อยู่รอบ Lotus Pond  ศาลาแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเพื่ออุทิศแด่เทพเจ้ากวนอู มีรูปปั้นใหญ่พระแม่กวนอิมทรงบนหลังมังกร  เป็นสะพานยาวที่ยื่นไปยัง ศาลากลางน้ำ Wuliting  เป็นอีกหนึ่งถ่ายรูปที่สวยอลังการมาก ๆ เป็นมุมที่ไม่ควรพลาด

.
เปิดทุกวัน เวลา 06.00–21.00 น.
วิธีเดินทางมาสามารถนั่งรถไฟฟ้าสาย Red line ลงที่สถานี Ecological District จากนั้นเดินไปขึ้นรถบัสสาย R35 ของบริษัท Han Cheng Bus ที่สถานี Ecological District Station (Bo Ai Park) และมาลงที่สถานี Lianchi Tan

13. Zuoying Yuandi Temple

ไปกราบสักการะ ตั่วเหล่าเอี๊ย เทพเจ้าเสวียนอู่ หรือเจ้าพ่อเสือ องค์ใหญ่ที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางน้ำ เป็นเทพเจ้าในลัทธิเต๋าที่ผู้คนให้การนับถือเป็นอย่างมาก และใกล้กันยังมีศาลาเป่ยจี๋ (Beiji) เป็นศาลาคู่ทรง 8 เหลี่ยม ทั้งฝั่งซ้ายและขวาของสะพานที่ยื่นออกไป เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่อยู่บริเวณ Lotus Pond  

. เปิดทุกวันเวลา  : 06.00–22.00 น.

14. PAMMA Coffee 泮咖啡

ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ในแพลนของเรา และเป็นคาเฟ่ที่เราไม่ได้ตั้งใจจะรีวิว เราไปเจอโดยบังเอิญ เพราะไป Lotus Pond ในวันที่ฝนตกหนัก ได้ที่นี่เป็นที่หลบฝน แต่เมื่อเข้าไป บรรยากาศในร้านดีเลยทีเดียวมองเห็น Lotus Pond ชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้เราตัดสินรีวิวบอกต่อคือ อาหาร หน้าตาในรูปอาจจะดูไม่หวือหวา แต่จานที่เสิร์ฟมาชวนน้ำลายสอเลยทีเดียว และประเด็นคือรสชาติ ทุกเมนูที่สั่งมาอร่อย จานใหญ่คุ้มค่าคุ้มราคา และที่สุดของที่สุดคือ พอร์คชอปสเต๊กที่เราสั่งมา อร่อยจนตาเยิ้ม อร่อยจนต้องบอกต้นว่านี่คือพอร์คชอปที่นุ่ม และอร่อยที่สุดเท่าที่เราเคยกินมาเลย  อยากให้ทุกคนได้ไปลอง

.

เปิดให้บริการทุกวัน 11.00 – 20.00 น.

การเดินทางจาก KMRT Zuoying Station นั่งรถบัสสาย 51 มาลงที่สถานี Dragon Tiger Lotus Lake

15. Sanfeng Temple 

ปิดท้ายกันด้วยสายบุญ สายมู วัดสวย วัดที่ต้องแวะมาให้ได้เมื่อมาเกาสง วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี  นอกจากมาไหว้พระขอพรแล้ว ที่นี่ยังมีมุมถ่ายรูปที่สวยสุดอลังการอีกด้วยนะ โดยเฉพาะมุมโคมไฟสีแดง ที่ถ่ายรูปออกมาได้สวยมาก มองในรูปว่าสวยแล้ว มองด้วยตายิ่งสวยกว่า

.

เปิดทุกวัน เวลา 05.00–22.00 น.
การเดินทางจาก KMRT City Council Station เดินต่อประมาณ 10 นาที