Takayama Japan : เมืองเล็กที่ไม่เล็ก กับเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่มากมาย
kamikochi และ shirakawa go
.
.
.
รีวิวนี้เป็นภาคต่อ ของตอนที่แล้ว แต่จริงๆ มันก็คนละเมืองกันนั่นแหละ แค่เดินทางในทริปเดียวกัน
เราคงไม่มานั่งกล่าวเวิ่นเว่อเหมือนครั้งก่อนๆ ว่าทำไมถึงไปญี่ปุ่น
แต่ไม่จะเวิ่นเว่อเลยสักนิดเกี่ยวกับการไป เมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า Takayama ครั้งแรก ก็กะไรอยู่
จริงๆ นุ้ยกับต้นได้ยินชื่อเมืองนี้มานานแสนนาน แต่ก็ไม่มีโอกาสสักครั้ง
เมื่อครั้งก่อนโน้นที่เราไปโอซาก้า ก็เกือบจะวกไปถึงแล้วเชียว แต่การเดินทางต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะ
แต่ก็ใช่ว่า จากโตเกียวจะไม่ไกล ใช่ว่าจะมิคานามิ จะไม่ไกล
แต่ใจมันหยุดไม่อยู่แล้วจริงๆ และมีสถานที่ใกล้ๆ ที่ดึงใจมากๆ นั่นคือ Shirakawa-go และ Kamikoshi
ถ้าพร้อมแล้วก็หยิบใจใส่กระเป๋า ..และออกเดินทางไปด้วยกัน
สำหรับใครไม่ชอบอ่าน ก็ดูคลิปนะคะ
https://www.youtube.com/watch?v=H_-cMS_px4A&t=59s
รีวิวภาคแรก https://goo.gl/q7PvRC
สำหรับการเดินทางไป Takayama
ถ้าเริ่มจาก โตเกียว ขอแนะนำ 2 เส้นทาง
1 เดินทางด้วยรถไฟ JR Tokaido-Sanyo Shinkansen จากโตเกียวไปยัง Nagoya Station และเปลี่ยน
ขบวนเป็น JR Hida limited express ใช้เวลารวมประมาณ 4.06ชั่วโมง ค่าใช้จ่าย 14,620 เยน /เที่ยว
ซึ่งคุณสามารถใช้ Jr Rail Pass ในการเดินทางได้ ซื้อตั๋วJR pass https://goo.gl/osCwFP
2. เดินทางด้วยรถบัส มีรถบัสของบริษัท Nohi Bus ให้บริการที่ชินจูกุมายังเมืองทาคายาม่าโดยใช้เวลาประมาณ
5.50 ชั่วโมง ค่ารถ 6,69 เยน /เที่ยว เช็ครอบรถได้ที่นี่>>www.nouhibus.co.jp/english/tokyo.html
แต่สำหรับเราออกเดินทางจาก Takaragawa Onsen ก็จะวกวนหน่อย
แต่ก็ใช้ JR Pass ได้ตลอดเส้นทาง เปลี่ยนขบวนแค่ 2 รอบ
.
สำหรับที่พักในเมือง Takayama เรานอนกันที่ The Takayama Station Hoste
เรานอนที่นี่ทั้งหมด 3 คืนด้วยกัน
การจองที่พักเราจองผ่าน Traveloka หรือเพื่อนๆ จะหาที่พักที่อื่น
ก็ลองเช็คเข้าไปดูในเว็บไซต์นะคะ https://www.traveloka.com/th-th/
ถ้าเจาะจองเฉพาะญี่ปุ่นเลย ลิงค์นี้ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/japan
ลิงค์ที่พักที่นุ้ยพักในทริปนี้ https://www.traveloka.com/the-takayama-station-hostel
แต่ถ้าใครถนัดใช้มือถือ โหลดแอพเลย
ดาวน์โหลด
App Store https://goo.gl/BfMCyX
Google Play https://goo.gl/qTkm3v
นุ้ยใช้งานค่อนข้างบ่อยเลยทีเดียว แนะนำว่าสมัครสมาชิกรับข้อมูลข่าวสารไว้นะคะ
มีโปรแจกบ่อยมาก โค๊ดส่วนลดต่างๆ ก็ส่งตรงดิ่งเข้า E-mail เราเลย
.
กลับเข้าสู่การเดินทางในทริปนี้ของเรา
กว่าจะเดินทางมาถึงเมือง Takayama เกือบ 4 โมงเย็นแล้วค่ะ
รีบเข้าไปเช็คอินกันเลย ที่พักของเราชื่อ The Takayama Station Hoste
เมื่อมาถึง Takayama Station ให้เดินออกทางประตูทิศเหนือนะคะ
เมื่อออกมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายเดินไปจนถึง 4 แยก จะเจอที่พักเราเลยค่ะ
ใกล้ๆ กับที่ลานจอดรถ (ที่ไม่ฟรี555 )
พนักงานที่นี้สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี (ได้ดีกว่าเราอีก เพราะเราได้แบบงูๆ ปลาๆ)
พนักงานน่ารัก ช่วยเหลือดี
และนี่เลยห้องพักของเรา เป็นแบบเรียวกัง ของนุ้ยจองมาในราคาคืนละ 2 พันนิดๆ
และห้องน้ำเป็นแบบห้องน้ำรวม แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ ห้องน้ำสะอาดมาก กว้าง และแบ่งชายหญิง
มีอาหารเช้าด้วยนะ มีครัว มีพื้นที่ส่วนกลางครบ เลย
อย่างที่บอกว่าเรามาถึงเกือบ 4 โมงเย็น กว่าจะเช็คอินเก็บข้าวของ
เข้าห้องน้ำห้องท่า ก็ปาเข้าไปเกือบ 4 โมงครึ่ง แต่ 4 โมงครึ่งที่โน่นมืดเร็วกว่าบ้านเรามาก
และอากาศก็ค่อยๆ หนาว อุณหภูมิลดลงเรื่อยๆ
ตั้งใจจะไปเดินเล่น Old Town กันสักหน่อย ซึ่งก็เดินไปนั่นแหละ แต่มันมืดถ่ายอะไรแทบไม่ได้เลย
พวกเราก็เลยตัดสินใจหาร้านอาหารทานกัน
และก็เลือกร้านนี้ ร้านที่เห็นเด่นชัดกลางสีแยก หัวสะพาน ก่อนข้ามแม่น้ำมิยากาวะไปอีกฝั่ง
เราสั่ง Takayama ramen ในตอนอากาศหนาวๆ แบบนี้
น้ำซุปร้อนๆ หอมๆ นี่แหละดีที่สุด และมันก็ดันอร่อยมากซะด้วย เส้นเล็กนุ่ม คือดีมาก ต้องมาลองค่ะ
ทริปนี้เราลืมจดพวกค่าใช้จ่ายมา อาจจะทำให้ข้อมูลไม่ละเอียดนะ
แต่คร่าวๆ ชามนี้น่าจะประมาณ 690 เยน
สำหรับของต้น สั่งข้าวหน้าเนื้อฮิดะ แต่เป็นเนื้อส่วนไหนนั้น ก็ไม่รู้
รสชาติซอส ต้นบอกธรรมดา แต่ตัวเนื้อ จะไม่ใช่เนื้อส่วนที่กินแล้วละลายหายไป
แต่ก็ยังมีความอร่อย หนุบๆ หนับๆ คล้ายๆ ฟองน้ำ แล้วก็นุ่ม
ตอนฟังต้นอธิบาย นุ้ยก็ไม่เข้าใจหรอก แต่ก็ลองชิมดู มันใช่จริงๆ ด้วย แบบนั้นเลย
ปล. ที่นี่เมืองนี้ ทำให้นุ้ยกินเนื้อวัวได้ เพราะหอม อร่อย จริงๆ
ปล. มีคนบอกว่าถ้ามา Takayama แล้วไม่ได้กินเนื้อ ฮิดะ คือมาไม่ถึงนะเธอ
.
Day 2 in Takyama
วันแรกผ่านไปแบบรวดเร็ว เพราะเราใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเดินทางได้เดินเล่นบ้าง ชิลล์ ๆ หาของกินเล่นบ้าง
หลายคนอาจสงสัยทำไมถึงนอนที่ Takayama ตั้ง 3 คืน ทั้งที่เป็นเมืองเล็กๆ
ก็อย่างที่เราบอกแหละว่า เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ก็จริงๆ แต่เมืองที่อยู่ใกล้เคียง ก็ดึงดูใจเราได้ดีมากๆ
และวันนี้เราก็จะออกไปเที่ยวกันที่ Kamigochi
ก่อนจะออกเดินทางกันสำหรับวันนี้ เล่ากันก่อนสักนิดว่าการเดินทางภายใน Takayama จะมีรถบัสให้บริการ
แต่สำหรับนุ้ยใช้วิธีเดินเกือบทั้งหมด ค่ะ เดินไปเรื่อยๆ และ เช่ารถขับ
แต่การเช่ารถขับของเราไม่ได้เช่าเพียงเพื่อที่จะเดินทางใน Takyama เท่านั้น
แต่ไว้สำหรับขับออกไปเมืองนอก ๆ ชมวิวนอกเมือง และขับต่อไปยัง kawaguchiko
และเช้านี้ก่อนออกเดินทางไป takayama เราไปเดินเล่นกันที่ ตลาดเช้าทาคายาม่า Morning Markets
ซึ่งตลาดเช้าของที่นี่ จะมีอยู่ 2 แห่งด้วยกัน คือ ตลาดเช้ามิกาวะ (Miyagawa Morning Market / 宮川朝市)
และ ตลาดเช้าจินยะมาเอะ (Jinya-mae Morning Market / 陣屋前朝市)
.
.
ตลาดเช้าที่เราจะพาเดินเล่นกันวันนี้คือ ตลาด Miyagawa Morning Market
เป็นตลาดเช้าริมแม่นำมิยากะวะ เดินมาจากที่พักเราไม่ไกลนักแค่ประมาณ 5 นาที
ตอนเช้าๆ อากาศหนาวไม่ใช่เล่นเลยนะนี่
เราออกมาเดินกันตั้งแต่ประมาณ 7 โมงครึ่ง ผู้คนยังไม่มากนัก ตอนแรกก็แอบงงนะ ว่าไม่มีใครมากันเหรอ
แต่ก็มาถึงบางอ้อ ตอนกลับว่าคนจะมากันตอนสายๆ หน่อย
ตลาดนี้จะมีทั้งพวกขนม ของฝาก ของที่ระลึก และพืชผัก ที่ชาวบ้านนำวางมาแผงขายกัน
แต่ร้านแรก ที่ดึงดูดใจเราให้แวะ คือร้านกาแฟ เล็กๆ ของผู้ชายติสท์ ๆ คนหนึ่ง
เช้าๆ อากาศหนาวๆ กลิ่นกาแฟหอมๆ มันเข้ากั๊น เข้ากัน
เราอาจจะเป็นโรคจิต หรือกาแฟอาจเป็นยาเสพติดย์ เพราะแค่ได้กลิ่นเราก็ยิ้มแล้วอ่า
และสิ่งที่ดึงดูใจนุ้ยมากๆ คือถ้วยกาแฟเล็กๆ ในมือนุ้ยนั่นเอง
เป็นถ้วยคุ๊กกี้ ด้านในเคลือบด้วยน้ำตาล ตอนจิบกาแฟ จะมีรสหวานจากถ้วยคุ๊กกี้นี่แหละค่ะ
หลังจากทานกาแฟหมด หนุ่มติสท์เจ้าของร้านก็ บีบวิปปิ้งครีมใส่ถ้วยให้ … เขาบอกว่า very yummy
เดินต่อไปถึงรา ทาโกยากิ มันก็อร่อยดีน๊า
ร้อนๆ พ่นควันได้เลยทีเดียว
หลังกลับจากตลาด เราก็ไปรับรถกันที่ Toyota เพราะหลังจากวันนี้เราจะใช่รถคันนี้แหละเป็นยานพาหนะ พาเราไปไหนมาไหน
ส่วนเรื่องรถเช่ายังไง ราคาเท่าไหร่ เดี๋ยวจะมีรีวิวมาให้อีกทีน๊า
.
.
มาถึงปลายทางที่เราจะไปกันวันนี้ดีกว่า
เพราะมันว๊าวมาก สถานที่แห่งนั้นคือ คามิโคจิ(Kamikochi)
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ถ้าเอาแบบเป็นข้อมูลมีสาระหน่อยก็ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น
ในจังหวัดนากาโน่ แต่จริงๆ นุ้ยไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรมากมายเลย
รู้แค่ว่าเคยเห็นเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งตอนที่พี่เขาไป เป็นประมาณต้นเดือนตุลาคม
ภาพในตอนนั้นคือมันสวยมาก สวยติดตา กับภาพเทือกเขา และลำธารสีฟ้า
จนปีนี้ต้องตามรอยไปให้ได้
การเดินทางจาก Takayama
สำหรับนุ้ยคือ ขัับรถมาจอดที่ Hiraya Onsen แล้วต่อด้วยรถบัส เพราะ ไม่อนุญาติให้นำรถส่วนตัวเข้าไปด้านใน
ซึ่งค่ารถบัสก็แพงเอาการเลยทีเดียว ราคาเที่ยวละ 1,160 เยน ไปกลับ 2,050 เยน
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เช่ารถเหมือนนุ้ยกับต้น ก็สามารถเดินทางด้วยรถบัสจาก Takayam ได้เลย
ซึ่งจาก Takayama นั่งรถบัส Nohi bus ไปลงที่ Hirayu Onsen ราคา 1,570 เยน ออกทุกๆ ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 60 นาที
จากนั่นต่อรถบัสไป kamikochi ราคาเที่ยวเดียว 1,160 เยน ไปกลับ 2,050 เยน รถออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ใช้วเลาเดินทาง 25 นาที
ได้ตั๋วมาแล้วค่ะ
แต่ยังไม่ถึงเวลารถออก ไปหาอะไรหม่ำกันก่อน เพราะเมื่อเช้าเรายังไม่ได้กินอะไรกันเลย
จะมีร้านอาหารที่เป็นตู้กดแบบนี้
ได้ราเมนมาคนละ 1 ชาม อิ่มท้องอิ่มพุงเลย
อิ่มแล้วก็มายืนรอรถจุดนี้นะคะ ตรงช่องเบอร์ 2
นั่งดูข้างทางมาเรื่อยๆ แปบเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
เราจะมาลงรถจุดนี้ และขึ้นรถกลับที่จุดนี้เหมือนเดิม ป้ายช่องเบอร์ 5
ลงจากรถเดินมาเรื่อยๆจนถึง สะพานคัปปาบาชิ(Kappabashi/Kappa Bridge)
สิ่่งที่เห็นตรงหน้า มันสวยมาก
สวยกว่าที่เคยเห็นในรูป สวยกว่าที่เราคิดไว้
สวยจนแอบบเผลอคิดว่าที่นี่ยุโรปหรือเปล่า
เราเดินลัดเลาะเข้ามาด้านในเรื่อยๆ จริงๆ จะมีแผนที่ให้ดูว่า จุดไหนเป็นจุดสำคัญ บ้าง
แต่สำหรับเรานะเหรอ ? เดินไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์
เท่าที่สังเกตุคนญี่ปุ่น ชอบมาปีนเขากัน และมีเห็นบ้างประปราย กางเต้นท์ในบริเวณ นี้
เหมือนที่นุ้ยบอกมั้ยว่า สวยเหมือนยุโรปเลย
สำหรับเรื่องอากาศ ที่คามิโกจิ หนาวกว่าในเมืองเยอะมาก สั่นสะท้านเลยทีเดียว
อ๋อลืมบอกไปว่า ที่นี่จะเปิดให้เข้าชม ช่วง กลางเดือเมษายน – กลางเดือนพฤศจิกายน เท่านั้นนคะ
จะถูกปิดในช่วงฤดูหนาว
ถ้าถามว่าค่ารถมาที่นี่สูงมั้ย มันก็สูงเนอะ
แต่อยากให้มา มันคุ้มค่าจริงๆ คุ้มมากๆ
สำหรับคนอื่นเราไม่รู้เลยว่าเขาคาดหวังกับการเดินทางมากขนาดไหน
แต่เราเชื่อมาตลอดว่า การคาดหวัง … ยอมผิดหวัง
แต่การไม่คาดหวังอะไรเลย … มันจะทำให้เราว้าว กับทุกสถานที่ ที่ได้เจอ
โคตรรัก kamikochi เลย
เต็มอิ่มแล้วก็กลับเข้าเมืองกันเร็วหน่อยนึง
เพราะเมื่อวานเราพลาด old town วันนี้เราจะไม่พลาดอีก
old town หรือย่านเมืองเก่า San-machi Suji สองข้างทางเรียงรายด้้วยอาคารไม้เก่าๆ สองชั้นแบบญีปุ๊น ญีปุ่น
ถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารบ้าง ร้านขายของที่ระลึกบ้าง
และจู่ๆ เราก็มาติดกับดัก เป็นเหยื่อการตลาด ด้วยแถวที่ต่อกันยาวยืด
เราไม่รู้หรอกว่าอร่อยมั้ย แต่ถ้าแถวยาวเมื่อไหร่ เราต้องมีส่วนร่วม
รอไม่นานนัก และแล้วเราก็ได้มา 2 คำ 600 เยน
มันน่าหม่ำมากๆ และต้นบอกว่าอร่อยมาก ละลายมาก
..สรุปได้ว่าคุ้มค่ากับการยืนรอ
เดินเล่นไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ
จนในที่สุด ท้องก็ร้องแบบจริงจัง
และเป้าหมายของเราวันนี้คือการกินเนื้อฮิดะ ร้านไหนก็ได้ ไม่กำหนดร้าน
เอาร้านที่เปิดตอนเราหิว
ซึ่งเมืองนี้ค่อนข้างแปลกในช่วงเวลาเย็น ทุกร้านจะปิดเงียบ
ติดป้ายว่าปิดบ้าง ขายหมดแล้วบ้าง จนเราแอบงงว่าทำไม เมืองนี้ปิดร้านกันเร็วจัง
( แต่เราค้นพบความจริงว่า ร้านเนื้อจะเริ่มเปิดกันตอนประมาณ 6 โมงเย็น หรือ 1 ทุ่มนี่แหละค่ะ )
แต่เราก็ยังเดินไปเจอมาร้านนึง เดินไปเรื่อยๆ ร้านนี้ จะอยู่ไม่ห่างจากร้านราเมน ตรง 4 แยกเมื่อคืนมากนัก
ถ้าหกาเรายืนหน้าร้าน โดยหันไปทางแม่น้ำ ให้เราเดินเลี้ยวไปทางซ้ายค่ะ เดินไปประมาณ 150 เมตร ก็เจอร้านนี้แล้วหล่ะ
เมนูแรกที่สั่งมาก เซ็ตนี้มาพร้อมข้าว ซุป สลัด และเตาย่าง และเนื้อพระเอกของจานเลยค่ะ
ต้นไม่ได้พูดอะไรมาก มีแค่เสียง อื้อๆ หื้อ ๆ ละลาย ละลาย แค่นี้จริงๆ
แล้วนุ้ยก็ลองชิม นุ้ยก็ อื้อๆ หื้อ ๆ ละลาย
ต่อมาเป็นข้าวหน้าเนื้อ และหน้าหมู รสชาติปกติค่ะ ราคาไม่ได้ต่างจากเป็นเซ็ตมาก
แนะนำให้สั่งเป็นเซ็ตคุ้มกว่า อร่อยกว่าเยอะเลยค่ะ
.
.
อีกวันในเมือง Takayama
เช้านี้อากาศดีจัง ลมหนาวเบาๆ หมองลอยนิด ๆ
เช้านี้เราลองไปเดินตลาดอีกหนึ่งตลาด
ชื่อว่า ตลาดเช้าจินยะมาเอะ (Jinya-mae Morning Market / 陣屋前朝市)
ตั้งอยู่หน้าอาคาร Takayama Jinya เดินไปจากที่พักก็ประมาณ 10 นาที
.
ระหว่างทาง
เดินดูเมืองไปเรื่อยๆ มันก็เพลินดี แปบเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
สินค้าที่ขายในตลาดนี้ส่วนใหญ่เป็นผัก และผลไม้
สำหรับเราสองคน ชอบตลาดที่ไปเมื่อวันแรกมากกว่า
ขากลับเดินผ่าน สะพานแดงนากาบะชิ (Nakabashi) เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยนะ
กลับจากตลาดวันนี้เรามีออกเดินทางต่อ ด้วยรถยนต์ที่เราเช่ามานั่นแหละค่ะ
ไปยังปลายทางในฝันของหลายๆ คนนั่นคือ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
หมู่บ้านที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรม
สำหรับการเดินทางไป ชิราคาวาโกะ หากขับรถเหมือนนุ้ยสามารถขับไปได้เลย ระหว่างทางสวยมากๆ เลยค่ะ
แต่ถ้าหากไม่ได้เช่ารถ จะมีรถบัสให้บริการ เป็นรถของ Nohi Bus หรือสามารถซื้อเป็น วันเดย์ทริปก็ได้ค่ะ
เมือเดินในเมือง หรือในที่พักของเราก็ตามจะเห็นป้ายติดอยู่
อย่างที่บอกว่าระหว่างทางสวยมากๆ
ในที่สุดเราก็มาถึงค่ะ
ด้านหน้าจะมีลานจอดรถไว้บริการ
จะเข้าหมู่บ้านต้องเดินข้ามสะพานนั้นไป
เสน่ห์ของหมู่บ้านนี้ อยุ่ที่ แบบบ้านไสตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น หลังคาจะเป็นทรงสามเหลี่ยมสูงแหลม
และมีความหนามาก เพราะจะได้เป็นเกราะป้องกันในช่วงฤดูหิมะตก และเก็ความอบอุ่นไว้ภายในบ้าน
ยังเดินไปได้ไม่ถึงไหน เราก็แวะแล้วค่ะ
ได้กลิ่นอะไรหอมๆ ก็จอดเลย
ร้านนี้ มีนื้เสีียบไม้ย่างขายด้วย
เห็นเล็กๆ แบบนี้ไม่ใช่ 10 บาท บ้านเรานะ
ไม้นี้ราคา 1,000 เยน ตอนซื้อไม่ได้คิดค่ะว่าเป็นเงินไทยเท่าไหร่
รู้แค่ว่ามันหอม และอร่อยมาก
แต่กินเสร็จปุ๊ป แอบบตกใจเล็กๆ ฉันทำอะไรลงไปน๊า
ไอศครีมรสนมอร่อยมาก โคนแบบคุกกี้ แต่ราคาแอบบสูง 550 เยน โรยผงชาเขียวมานิดเดียว
ร้านค้าทุกร้านของญีปุ่น เมื่อเราซื้อของกินต้องยืนทานหน้าร้านให้หมดนะคะ
ห้ามเดินกิน นุ้ยไม่รู้ว่านี่คือกฎ หรือมารยาท แต่ทุกคนยืนหน้าร้านเหมือนกันหมดเลยค่ะ
เดินเที่ยวเล่นจนทั่วหมูบ้าน
ภายในหมูบ้านจะมีทั้งที่พัก ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก
ถ้าถามว่าสวยมั้ย มันสวยนะ สวยมาก
แต่นุ้ยว่า ถ้าจะมาจริงๆ ช่วงที่มีหิมะ น่าจะสวยกว่านี้เยอะมากเลยค่ะ
เพราะทุกครั้งที่เห็นภาพที่นี่ในสื่อ ก็จะเห็นแบบหิมะท่วมๆ
แต่มันก็จะหนาวแทบขาดใจเหมือนกัน
และที่พลาด ไม่ได้เลย
คือการเดินขึ้นไปจุดชมวิวค่ะ อย่าถามว่าเหนื่อยมั้ย 5555
และเมื่อเดินไปถึงเราพบว่า สามารถขับรถวนจากด้านนอกไปได้
ก็ได้แต่มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะ
และทริปในวันนี้ก็จบลง ขับรถกลับเข้า takayama กันเถอะ
วันนี้เราไม่ได้ออกไปทานอาหารข้างนอก
แต่ซื้อของจากซุปเปอร์มาทำทานกันที่โฮสเทลค่ะ
เพราะที่นี้มีครัวไว้บริการด้วย
.
เช็คราคาห้องพัก takayama
https://www.traveloka.com/th-th/
หน้าตาอาหารของเราก็จะประมาณนี้ จัดหนักนิดนึง หมูทอด เนื้อย่าง และชาบูๆ
กินอิ่ม นั่งเม้าท์จนดึกดื่น ได้เวลาเก็บแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้
.
เช้าวันสุดท้ายในเมือง Takayama
เราบอกลากันตั้งแต่ฟ้าสาง … เพราะปลายทางของเราในวันนี้คอ Kawakuchigo
ตั้งขับรถกันยาวๆ แบบหลายชั่วโมงเลยทีเดียว
.
.
และนี่คือระหว่างทาง
รางวัลของการเช่ารถขับ
ทุกทริปมีเรื่องราว และเรื่องเล่าเสมอ
ที่สำคัญ … มีความทรงจำดีๆ ให้จดจำ
ญีปุ่นก็คือญีปุ่น … รอติดตามตอนต่อไป เร็วๆ นี้ๆ
ติดตามเรา Nui ka ton แฟนพาเที่ยว
Fanpage : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels
WebSite : www.mylifemytravels.com
Youtube : https://goo.gl/0bnw9a
Instagram: https://goo.gl/G7qsVC
….
สนใจติดต่องานได้ที่
E-Mail : mylifemytravels@gmail.com
Tel. : 094-5929142
#แฟนพาเที่ยว #mylifemytravel #NuiKaTon #Coupletravelers
[…] […]