ถ้าใจบอกว่าใช่ เขาใหญ่คืออิตาลีได้
ความอยากเที่ยวของเราถ้าให้นับเป็นเปอร์เซ็นตอนนี้ทะลุร้อยไปแล้ว เพื่อตอบสนองความคิดถึงยุโรปที่มันมีมากเหลือเกิน เราเลือกไปที่นี่อีกครั้ง Toscana Valley เราจดจำความรู้สึกตอนที่ไปครั้งก่อนได้ดี ว่าฟิลล์ความอิตาลี มันได้จริงๆ และมันเป็นสถานที่ ที่ไปครั้งเดียวเที่ยวไม่พอ อยู่ที่นั่นเหมือนเราได้หลุดไปอยู่อีกซีกโลก พื้นที่ภายในกว้างมาก มีทั้งที่พัก ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ คาเฟ่
ซึ่งจะแบ่งเป็นเป็นโซนหลักๆ 3 โซน
1.Town Square Suites ที่พักกลางเมือง มีแสงสี ร้านร้านอาหารคาเฟ่ เพียบ
2.Hotel La Casetta ฟิลล์ที่พักชนบทท่ามกลางธรรมชาติ
3.Toscana Piazza อารมณ์ที่พักบนหอเอน ซึ่งมีทั้งที่พักและห้องอาหาร
.
ครั้งก่อนเราพักที่ Hotel La Casetta ตอนนั้นก็ฟินมากๆ แต่เราไม่ได้เข้าไปใช้บริการที่ Toscana Piazza เลย เพราะมัวแต่ดื่มด่ำกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันจึงบังเกิดทริปนี้ขึ้นมา ก็บอกแล้วว่าครั้งเดียวเที่ยวไม่พอ
เอาไว้ครั้งหน้า เราจะไปนอนกลางเมือง Town Square Suites กันบ้าง
.
สำหรับคนที่มาพักที่ TOSCANA VALLEY ไม่ว่าจะพักโซนไหน ก็สามารถไปใช้ Facility ของทั้ง 3 โซนได้ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิสเนต ความปังปุคือ ที่นี่มีสระว่ายน้ำ 5 สระค่ะคุณ ต้องเตรียมชุดว่ายน้ำไป 5 ชุดหรือเปล่า ถามจริง ? ไป 1 ทริป มีรูปโพสต์ได้ทั้งเดือนแน่ๆ
.
เดี๋ยวนุ้ยจะพาไปสำรวจข้างในกันแบบจุกๆ เสื้อผ้า หน้า ผม ชุดต้องพร้อมหน้า เพื่อรูป เราทำได้
.
#สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
LINE Official: https://lin.ee/deQJC0s
Tel 044756558
.
#ToscacnValley #Khaoyai #มาครั้งเดียวเที่ยวไม่พอ
ตามมาค่ะ เราจะเริ่มพาทุกคนออกสำรวจ Toscana Valley กัน ขอพาไปดูแยกทีละโซนน๊า
เราจะมาเริ่มกันที่ Toscana Piazza เป็นโซนที่นุ้ยพักในครั้งนี้ อันนี้คือตอบสนองความต้องการตัวเองล้วนๆ เพราะครั้งที่แล้ว เราไม่ได้แวะโซนนี้เลย ครั้งนี้จึงเลือกนอนที่นี่
ชื่อก็บอกอยู่แล้วเนอะว่าคือหอเอนปิซ่า โซนนี้จะอยู่ด้านหน้าเลย มีทั้งที่พัก และห้องอาหาร
สำหรับคนที่ไม่ได้พักที่นี่ ก็สามารถเข้าไปใช้บริการที่ห้องอาหารได้น๊า ชื่อ Café Al Secondo เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยน ที่วิวสวยมากกกกกกก
ไปดูห้องพักกันเลยดีกว่า ที่นี่จะมีทั้งหมด 17 ชั้น แต่ละชั้นจะมีเพียง 1 ห้องเท่านั้น ครั้งนี้นุ้ยพักที่ชั้น 16
เป็นชั้นที่สามารถเปิดประตูออกไปยืนตรงระเบียงได้ ได้เห็นวิวทอสคาน่ามุมสูงกับตาตัวเองแบบไม่ใช้โดรน ได้สัมผัสอากาศด้านบน มันดีเหลือเกิน
ห้องกว้างมากเลยทีเดียว ดีไซน์จะเป็นลักษณะโค้ง เข้ากับรูปทรงของอาคาร
มีทั้งโซนห้องน้ำ ห้องนอน และห้องนั่งเล่น
นั่งดูวิว อ่านหนังสือ จิบชา จากมุมสูง นอกจากได้พักผ่อนแล้ว มันยังเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกอย่างเลยนะ
และด้วยดีไซน์ที่เป็นโค้ง ตามลักษณะตัวอาคาร ทำให้เราเห็นวิว ผ่านช่องหน้าต่าง แต่ละช่องต่างกันออกไป ฝั่งหนึ่งเป็นเมือง ฝั่งหนึ่งเป็นธรรมชาติ
สำหรับอาหารเช้าจะเป็นบุฟเฟ่ต์ เสิร์ฟที่ห้องอาหาร Café Al Secondo อยู่ที่ชั้นสอง
เป็นห้องอาหารที่สวยมาก มีควาทเท่ ความชิค และมีวิวที่พิเศษมากๆ เราแทบจะจำรสชาติอาหารในมื้อเช้าวันนั้นไม่ได้เลย เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับวิว และมุมถ่ายรูป
จนกระทั่งมื้อดินเนอร์ที่เราเลือกที่จะกลับมาทานที่นี่อีกรอบ เราไม่รู้จะอธิบายว่ายังไงดี นี่เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกว่า สิ่งที่เราเห็นด้วยตา มันสวยกว่ารูปที่เราถ่ายมาเยอะมาก ยิ่งตอนมองผ่านลอดออกไปทางหน้าต่างมันดีต่อใจจริงๆ
และมื้อนี้เราไม่พลาดที่จะดื่มด่ำกับรสชาติของอาหาร
เราชอบพิซซ่าจานนี้มาก Pizza Pescatora
แป้งบาง ชีสเยิ้มมาก หรือเชฟทำชีสหกใส่ไปน๊า 555 เอาเป็นว่ามันอร่อย
คนรักทรัฟเฟิล จะรักเมนูนี้ นุ้ยคอนเฟิร์ม Mushroom Cream Soup Served with Bread
Tagliolino Truffle Cream Sauce
Rocket Salad with Smoked Salmon
ปิดท้ายด้วยของหวาน Lemon Mascarpone Roll
ผ่านโซนแรกไปแล้ว ต่อไปเราจะพาเข้าไปด้านใน ซึ่งจะเป็น Town Square Suites และ Hotel La Casetta
และเราจะเที่ยวกันด้วย รถกอล์ฟ ชิลล์มาก และก็ทำให้เราเห็นมุมต่างๆ มากขึ้นด้วย ถ้าใครอยากเที่ยวกับรถกอล์ฟเหมือนเราสองคน สามารถติดต่อเช่าได้เลยน๊า 2 ชม. 500 บาท หรือ ทั้งวัน 1,200 บาท
วันที่เราไปมีฝนตก ทำให้ได้มุมธรรมชาติสวยๆ แบบนี้ มีหมอก เมฆลอยลงต่ำ เย็นสบายเลย
ขับมาไม่นานนักเราก็มาถึง โซน Hotel La Casetta แล้ว จะเป็นโซนที่อยู่ด้านในสุดเลยค่ะ ที่นี่จะมีทั้งที่พัก ร้านอาหาร ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ ซึ่งสระว่ายน้ำของโซนนี้มีทั้งหมด 3 สระ
สระนี้จะให้อารมณ์ยุโรปๆ หน่อย รอบนี้ไม่ได้ลงสระเลย อากาศมันหนาวเกินไป เพราะวันที่เราไปคือวันที่อากาศหนาวที่สุดในฤดูร้อน นั่นคือ 16 องศา หลายคนน่าจะจำได้ดี
และนี่คืออีกหนึ่งสระ เป็นสระที่อยู่ใกล้กับล็อบบี้ของ Hotel La Casetta
เดินเล่นไปเรื่อยๆ เราจะเจอกับมุมนี้ เราชอบมาก ชอบเป็นการสวนตัว
และความพิเศษของ Hotel La Casetta จะมีห้องอาหารที่ชื่อว่า Club Lago เป็นห้องอาหารไทย ที่เปิดให้บริการทั้งวันเลย
เมนูที่เราสั่งมา ตามนี้เลย
1. สามชั้นทอดน้าปลากับกระเทียมจีน
2. สามชั้นทอดกรอบผัดกะปิ
3. แกงปูใบเหลียง
4. ต้มข่าไก่
5. น้าพริกกะปิกุ้งเสียบ
เมนูของที่นี่จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามซีซั่นด้วยนะเออ ซึ่งเมนูที่นุ้ยสั่งจะมีตั้งแต่ เดือนมีนาคม – มิถุนายน เท่านั้น ใครชอบอาหารไทย แวะเข้าไปชิมกันได้เลย
เข้าสู่โซนสุดท้ายของรีวิว และโซนสุดท้ายของ Toscana Valley แล้ว
โซนนี้คือ Town Square Suites เรายังไม่เคยนอนโซนนี้ รับรองว่ารอบหน้าเราจะไม่พลาด
เราชอบโซนนี้ช่วงกลางคืนมาก ๆ ลมหนาวๆ นั่งจิบไวน์ มันดีสุดบอกเลย
แต่รอบนี้ขอเป็นมื้อเที่ยงละกัน เพราะมื้อดินเนอร์ นุ้ยแอบเทใจให้ห้องอาหารอื่นไปแล้ว
ถ้าใครเข้ามาพักที่นี่ แนะนำให้ทานอาหารที่นี่ Caffe del Museo เพราะไม่ใช่แค่มุมถ่ายรูปที่สวย
แต่รสชาติอาหารก็อร่อยมาก
Pizza flambé คือดีมาก อร่อยมาก ตอนเสิร์ฟ มาจุดไฟที่โต๊ะด้วยนะ มัวแต่ตื่นเต้น ลืมถ่ายรูปค่ะคุณ
ตามติดมาด้วย Caesar salad / Fried Calamari / Tagliatelle Hokkaido
อิ่มแล้วไปเดินเล่นรอบๆ กัน โซนนี้จะมีสระว่ายน้ำอีก 2 สระนะคะ
นุ้ยชอบสระนี้สุด ความปังของวิว ความสวยของสระ คือสวยจริงๆ สวยทุกช่วงเวลา
เราใช้เวลาที่นี่ 3 วัน 2 คืน ยังไม่รู้สึกทำกิจกรรมไม่ครบ เที่ยวได้ไม่ทั่วเลย ยังไม่ได้ปั่นจักรยานเลย เวลาของเราก็หมดแล้ว และก่อนกลับหนึ่งสิ่งห้ามพลาด
นั่นคือการแวะไปที่ VINO café ค่ะ เพื่อซื้อของฝากกลับบ้านกัน เป็นขนมของแบรนด์ Cafe Tosca เลยทุกคน เป็นแบรนด์น้องใหม่จาก Toscana Valley”
ตอนกลางวันนุ้ยแวะนั่งจิบกาแฟ กินขนมแล้วรอบนึง และค้นพบว่า ครัวซองต์ของที่นี่อร่อย อร่อยทั้งแบบออริจินอล และแบบที่มีไส้ ไส้ทะลักมาก
ก็เลยได้กลับบ้านกรุปๆ ไป 2 ถุงค่า
พอแค่นี้ก่อน สัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก บะบ๊ายทอสคาน่า
